วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2553

"Topic" กับ は/が

วันนี้ได้ฟังความรู้เรื่อง Topic มาจากเพื่อน คือไม่ได้ฟังทั้งหมดอาจจะมีความรู้ตกหล่นไปบ้างก็ขออภัย

Topic คือ สิ่งที่ถูกยกขึ้นมาโดยผู้พูดและผู้ฟังมีความเข้าใจตรงกัน

เช่น "นิดตีเพื่อนของเธอเอง" ประโยคนี้ นิด เป็น Topic ของประโยค เพราะผู้พูดและผู้ฟังต่างก็รู้จักว่านิดคือใคร ถ้าหากผู้ฟังไม่รู้จักนิด ประโยคต้องเปลี่ยนไปเป็น "คนที่ชื่อนิดตีเพื่อนของเธอเอง"
รายละเอียดของ Topic ยังมีอีกมาก แต่ขอละไว้เท่านี้ก่อน มิเช่นนั้นคงต้องพิมพ์อีกยาวเลย

อย่างที่พวกเรารู้ ๆ กันอยู่แล้วว่า は ใช้เมื่อเป็น Topic ของประโยคนั้น ๆ
เพราะฉะนั้นผมจะนำเรื่อง Topic นี้มาวิเคราะห์แยกแยะการใช้ は/が

จากบทวิจัยของKnud Lambrecht เขาได้ยกตัวอย่างมาจำนวนหนึ่งมในการใช้ は/が โดยใช้เรื่องTopicนี้อธิบาย

ตัวอย่างแรก
A. What's the matter? B. How's your neck?
(どうしたの?) (はどうしたの?)
1. My neck is HURT. 1. It(my neck) is Hurt.
2. 首が痛い。   2. (は)痛い。

จากตัวอย่างนี้เราจะดูจากทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น เพื่อจะได้เข้าใจง่ายขึ้น
ลองเปรียบเทียบฝั่งA กับฝั่งB ดู สิ่งต่างกันคือคำถาม กับ は/が
การที่ฝั่งA ถามว่า What's the matter? เป็นการถามโดยภาพรวมไม่ได้เจาะจง
คนตอบก็ตอบว่า My neck is hurt. และ 首が痛い。ตามลำดับ ในบทสนทนานี้ คำว่า "คอ" ปรากฏขึ้นครั้งแรก จึงไม่เป็น Topic ทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น

ทำไมการปรากฏครั้งแรกถึงไม่เป็น Topic? เพราะผู้พูดกับผู้ฟังไม่มีความเข้าใจร่วมกันตั้งแต่แรกไง เนื่องจากการถามของผู้ถามเป็นการถามโดยรวมว่าเจ็บตรงไหน ต้องรอคนตอบตอบว่าคอ จึงรู้ว่าเป็นคอ เมื่อไม่มีความเข้าใจร่วมกันตั้งแต่แรกก็เป็น Topic ไม่ได้

ในขณะที่ฝั่งB มีการเอ่ยคำว่า "คอ" ตั้งแต่ประโยคคำถามแล้ว และก็มีความเข้าใจร่วมกันด้วยว่าเป็นคอของผู้ถูกถาม ทำให้คำตอบจึงเป็น It is hurt. และ 痛い。ในที่นี้ คำว่า My neck และ 首 เป็น Topic ที่ทำตัวสีแดงไว้เพื่อให้เห็นว่า มันมีความเข้าใจร่วมกัน เพราะมีการกล่าวมาก่อนหน้าที่ผู้ตอบจะตอบคำถาม งงมั้ยเนี่ย แต่ที่คนทั่วไปไม่ตอบว่า My neck is hurt และ 首は痛い。นั้นเป็นเพราะอะไร ลองมาฟังคุณ Knud อธิบายกัน

ที่จริงแล้วตามทฤษฎีควรตอบว่า 首は痛い。เพราะ 首 เป็น Topic แต่ว่าในการใช้จริงจะตอบแค่ 痛い เฉยๆ ในเรื่องนี้คุณ Knud Lambrecht อธิบายไว้ว่าเวลาตอบคำถามในลักษณะนี้ไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลเดิมในรูปเดิมอีก ก็เหมือนกับที่ภาษาอังกฤษเปลี่ยนจาก My neck ไปใช้คำว่า It แทน

ตัวอย่างที่สอง
John arrived
ジョンが来た。
ประโยคนี้ไม่เป็น Topic จึงใช้ が เหตุผลที่นาย Knud Lambrecht อธิบายก็คือ มันเป็น "neutral description" จึงไม่ต้องมี Topic

ด้วยข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมด ผมลองมาคิดดูว่าถ้าเราอยากพูดว่า ジョンは来た。ต้องเป็นสถานการณ์แบบไหน ก็ได้คำตอบว่า ต้องเป็นสถานการณ์ที่เรากำลังรอคนอยู่หลายคน แล้วถามว่ามากันหมดแล้วรึยังดังนี้

Has everybody arrived? 皆、来た?
John has arrived. But other people haven't.
ジョンは来た。でも、他の人は来ていない。
รูปแบบนี้ก็จะตรงกับหลักการใช้ は ในการเปรียบเทียบ แต่ถ้าอธิบายตามหลักของ Knud ก็จะได้ว่า คนถามกับคนตอบมีความเข้าใจตรงกันว่า John คือใคร และรู้ว่า John คือหนึ่งในจำนวนทั้งหมด จึงใช้ は ได้ ส่วนคำว่า 他の人 ใช้ は ได้เหมือนกันเพราะเป็นสิ่งที่ผู้พูดกับผู้ตอบรู้ตรงกันว่าเป็นจำนวนคนที่เหลือนอกจาก John ซึ่งมันก็เกิดการกล่าวมาแล้วในคำว่า 皆 นั่นเอง

หวังว่าที่เราเข้าใจเนี่ย ไม่ผิดหรือบกพร่องอะไรไปนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น